กล้วยน้ำว้า ผลไม้สารพัดประโยชน์ให้สารอาหารตั้งแต่ผลดิบ ผลห่าม ผลสุก ไปจนถึงหัวปลี

คนไทยรู้จักใช้ประโยชน์จากส่วนต่าง ๆ ของ “ต้นกล้วย” มาอย่างยาวนาน เพราะทุกส่วนของต้นกล้วย สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่ลำต้น ใบ ไปจนถึงผล ที่สามารถนำมารับประทาน ปรุงอาหารได้ทั้งคาวและหวาน

อย่าง “กล้วยน้ำว้า” มีสารอาหารเกือบทุกชนิดที่ร่างกายต้องการ ใน 1 ผลเล็ก (40 กรัม) มีพลังงาน 59 กิโลแคลอรี ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามินและเกลือแร่ โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ กลุ่มวิตามินบี วิตามินซี 

ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย มีการนำกล้วยน้ำว้ามาใช้ประโยชน์ในการดูแลสุขภาพ โดย “กล้วยสุก” และ “กล้วยห่าม” จะให้รสและสรรพคุณต่อร่างกายต่างกันไป และสามารถบรรเทาโรคทางเดินอาหารได้อีกด้วย

กล้วยน้ำว้าดิบหรือห่าม

มีรสฝาด บรรเทาอาการท้องเสียชนิดที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ เช่น อุจจาระไม่มีมูกเลือดปน หรือท้องเสียชนิดที่ไม่มีไข้ เนื่องจากสารแทนนินในกล้วยน้ำว้าดิบหรือห่าม มีสรรพคุณช่วยลดการหดเกร็งและลดการเคลื่อนไหวของลำไส้ จะช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้

วิธีรับประทาน

รับประทานครั้งละ ครึ่งลูก หรือ 1 ลูก หรือฝานเป็นแว่นๆ ตากแดดให้แห้งแล้วบดเป็นผง รับประทานครั้งละ 10 กรัม ชงในน้ำร้อน 120 – 200 มิลลิลิตร วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร หรือเมื่อมีอาการ

กล้วยน้ำว้าสุก

มีรสหวาน มีฤทธิ์เป็นยาระบาย ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก เนื่องจากมีสารเพคตินอยู่เป็นจำนวนมาก จึงช่วยเพิ่มกากอาหารให้กับลำไส้ เมื่อผนังลำไส้ถูกดันก็จะทำให้รู้สึกอยากขับถ่า

วิธีรับประทาน

รับประทานครั้งละ 1 – 2 ลูก และดื่มน้ำเปล่าตามมากๆ

---

อ่านบทความข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ scapegoatwildernessoutfitters.com อัพเดตทุกสัปดาห์